top of page

5 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ไปเช้าเย็นกลับและค้างคืน

1. จังหวัดนนทบุรี

จังหวัดนนทบุรี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตภาคกลาง ติดกับกรุงเทพฯ เป็นจังหวัดหนึ่งใน 5 จังหวัดปริมณฑลที่มีความเจริญในแทบทุกด้านเทียบเท่ากับกรุงเทพฯ แต่ในท่ามกลางความเจริญของสังคมเมืองในปัจจุบัน นนทบุรีกลับมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ งดงามไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตแบบไทยดั้งเดิมและไทยผสมผสาน ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสมากมายอย่างคาดไม่ถึง อีกทั้งด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ใกล้เมืองหลวง มีการคมนาคมสะดวกทั้งทางบกและทางน้ำ ทำให้จังหวัดนนทบุรีในวันนี้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรมองข้ามนะจ๊ะ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่เราหยิบมาแนะนำ ได้แก่ ศูนย์เกษตรบางรักน้อย เป็นสวนผลไม้ในเขตอำเภอไทรน้อย ปลูกผลไม้ประเภททุเรียน มังคุด มะไฟ มะม่วง สามารถเข้าเยี่ยมชมและชิมผลไม้สด ๆ ได้ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที-1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังสามารถซื้อผลไม้กลับไปเป็นของฝากจากอำเภอไทรน้อย ในช่วงฤดูผลไม้ออก เกาะเกร็ด เป็นเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนชาวไทยชาวมอญ สืบเชื้อสายจากบรรพบุรุษที่ย้ายมาตั้งรกรากนับตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรีและต้นกรุงรัตนโกสินทร์ และยังคงรักษาวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่ได้รับสืบทอดมาอย่างเหนียวแน่นใน ปัจจุบัน โดยมีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างที่น่าชมนับตั้งแต่วัดวาอารามที่งดงาม และหากเดินลัดเลาะไปบนเกาะเกร็ดนั้นจะได้เห็นถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาว มอญที่มีเอกลักษณ์ เช่น การทำเครื่องปั้นดินเผาที่ละเอียดปราณีงดงาม ส่วนเรื่องอาหารการกินบนเกาะเกร็ดก็มีมากมาย โดยเฉพาะอาหารมอญต่าง ๆ ที่มีจำหน่ายให้ลิ้มรสกันจนอิ่มก่อนกลับบ้านอย่างทอดมันหน่อกะลา ซึ่งมีส่วนผสมของหน่อกะลาอันเป็นพืชสมุนไพรตระกูลชิง อันเป็นผักพื้นเมืองบนเกาะเกร็ด ที่หลายร้านทำขายให้เลือกชิม หรือใครชอบเที่ยวแนวตลาดน้ำก็มีให้เลือกเยอะ เช่น ตลาดน้ำบางคูเวียง ตั้งอยู่ปากคลองบางคูเวียง ตำบลบางคูเวียง ตลาดจะมีช่วงเช้าระหว่างเวลา 06.00-08.00 น. ชาวบ้านจะนำผลไม้ตามฤดูกาลบรรทุกเรือมาค้าขายกันที่นี่ นอกจากนี้ยังมีอาหารและสินค้าอื่น ๆ ทุกเช้าจะมีพระภิกษุจากวัดบริเวณใกล้เคียงพายเรือออกบิณฑบาต, ตลาดน้ำไทรน้อย ตั้งอยู่ริมคลองพระพิมลราชา เป็นศูนย์รวมของอาหารคาวหวาน ผัก ผลไม้ หลายชนิดที่ชาวบ้านนำมาจำหน่ายริมฝั่งคลอง มีรสชาติอร่อย สะอาด ถูกหลักอนามัยและราคาเป็นกันเอง สามารถเลือกซื้อเลือกหาตามต้องการ นอกจากนี้ชมทัศนียภาพและวิถีชีวิตของชาวนนทบุรี ที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งคลอง ยังคงสภาพความเป็นธรรมชาติและความเป็นไทยอยู่ เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. บริเวณตลาดน้ำมีเรือล่องคลองพระพิมลราชาออกทุกชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 09.30-16.00 น. นำเที่ยวชมวัดไทรใหญ่และสวนมะพร้าว โดยมีเยาวชนเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่นนำชม ตลาดวัดตะเคียน เป็นตลาดน้ำเล็ก ๆ ที่เกิดจากความร่วมมือของตนในชุมชนและวัดตะเคียนที่ช่วยกันพัฒนาจนเป็นแหล่ง ท่องเที่ยวและสร้างเสริมรายได้ให้เกิดขึ้นในชุมชน และตลาดน้ำวัดแสงสิริธรรม ตั้งอยู่ที่ถนนรัตนาธิเบศน์-ตลาดท่าอิฐ ตำบลท่าอิฐ เป็นโครงการส่งเสริมให้ผู้ผลิตสินค้ารอบบริเวณวัดและเกาะเกร็ดได้นำสินค้ามา จำหน่าย เปิดวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 06.00-17.00 น.

2.จังหวัดฉะเชิงเทรา

จังหวัดฉะเชิงเทรา หรือที่หลายคนมักเรียกว่าเมืองแปดริ้ว คือจังหวัดใกล้กรุงที่ยังดกดื่นร่มรื่นด้วยสวนผลไม้ โดยเฉพาะมะม่วงพันธุ์ดี นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยการเป็นเมืองเก่าแก่ริมน้ำบางปะกง ซึ่งมีวัดหลวงพ่อโสธร หรือวัดโสธรวรารามวรวิหาร เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนแหล่งธรรมชาติในฉะเชิงเทรานั้น นับว่าอุดมด้วยสรรพชีวิตไม่น้อยหน้าใคร ผืนป่าสำคัญของที่นี่คือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยสุดท้ายของจระเข้น้ำจืดในเมืองไทย ส่วนในแม่น้ำบางปะกงช่วงปากอ่าว ก็เป็นแหล่งชมโลมาหลายสายพันธุ์ที่ว่ายเวียนเข้ามาทุกปีในช่วงเดือน พฤศจิกายน-มกราคม ด้วยเหตุนี้ฉะเชิงเทราซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไม่ถึง 100 กิโลเมตร จึงเป็นอีกจังหวัดที่น่าเที่ยว น่าชม เพราะที่นี่ยังมีของดีซุกซ่อนอยู่มากมายชนิดที่หลายคนก็คาดไม่ถึง

ตลาดริมน้ำร้อยปี ตั้งอยู่ที่ถนนศุภกิจ (ทางไปอำเภอบางน้ำเปรี้ยว) เป็นตลาดโบราณริมฝั่งแม่น้ำบางปะกงอายุกว่า 100 ปี ที่นี่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตผู้คนกับชุมชนที่ อยู่ริมแม่น้ำมาเก่าแก่ได้เป็นอย่างดี และเพื่อเป็นการอนุรักษ์วิถีชีวิตแบบนี้เอาไว้และสร้างอาชีพให้ชาวชุมชน จึงเกิด "ชมรมรักษ์ตลาดบ้านใหม่" ในตลาดจะมีสินค้าต่าง ๆ จำหน่ายทั้งอาหาร ข้าวแกง เครื่องดื่มโบราณ สมุนไพร ขนมทั้งไทย จีน ของเล่นโบราณ ของฝากของที่ระลึกต่าง ๆ วันเสาร์และอาทิตย์จะมีพ่อค้าแม่ค้านำสินค้ามาขายมากกว่าวันธรรมดา ระหว่างเวลา 09.00-1700 น. สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ชมรมรักษ์ตลาด บ้านใหม่ โทรศัพท์ 0 3881 7336, 08 6148 4513, 08 9881 7161, 08 9666 4266 หรือเว็บไซต์tat8.com ตลาดคลองสวน 100 ปี ตั้งอยู่ที่ตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วิถีชีวิตของชาวคลองสวนทั้งชาวไทยจีน ชาวไทยพุทธ ชาวไทยมุสลิม ผสมผสานวัฒนธรรม การดำรงชีวิตประจำวันอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ซึ่งจะเห็นได้จากสิ่งก่อสร้าง เช่น โรงเจ วัด สุเหร่า จะตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน และตลาดแห่งนี้จะเป็นแหล่งนัดพบของผู้คนมานั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติอัน ได้แก่ ร้านกาแฟ สำหรับผู้ที่สนใจจะชมบรรยากาศของวิถีชีวิตร่วมสมัยย้อนยุคกว่า 100 ปี ชิมอาหารอร่อยทั้งอาหารคาวที่มีสูตรเฉพาะ ขนมหวาน กาแฟสูตรโบราณดั้งเดิม ชมของเก่าและสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า สามารถแวะชมได้ที่ตลาดคลองสวน 100 ปีแห่งนี้แห่งเดียว (วันเสาร์และอาทิตย์จะมีพ่อค้าแม่ค้านำสินค้ามาขายมากกว่าวันธรรมดา) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลตำบลคลองสวน โทรศัพท์ 0 2739 3329, 0 2739 3253 บริเวณตลาดมีเรือล่องคลองใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ตลาดโบราณนครเนื่องเขต ตำบลคลองนครเนื่องเขต อำเภอเมือง เป็นตลาดริมสองฟากฝั่งคลองนครเนื่องเขตที่มีมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ลักษณะเป็นบ้านเรือนไม้และตลาดของชุมขนไทย-จีน ขนานไปกับริมคลองและมีทางเดินเท้าและสะพานเชื่อมถึงกัน เทศบาลตำบลนครเนื่องเขตได้ฟื้นฟูภาพวิถีชีวิตของชุมชนชาวตลาดริมคลองขึ้นมา ใหม่ โดยจัดให้มีการจำหน่ายสินค้าพื้นบ้านอาหารพื้นเมืองนานาชนิด อาทิ ข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว ขนม กาแฟโบราณ ผลไม้ และพืชผัก มีทั้งร้านค้าบนบกและเรือพายขายอาหารในลำคลอง นอกจากนี้ผู้มาเที่ยวชมยังได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชุมชน ได้แก่ ศาลเจ้าไท่จือเอี้ย และศาลเจ้าปุนเถ้ากงอีกด้วย โดยร้านค้าจะเปิดจำหน่ายเฉพาะในวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ตลาดน้ำบางคล้า อยู่ห่างจากตัวเมือง ฉะเชิงเทราประมาณ 30 กิโลเมตร ตั้งอยู่หลังสถานีตำรวจภูธรอำเภอบางคล้า เป็นตลาดริมแม่น้ำบางปะกง มีทั้งตลาดนัดบนบกและร้านค้าบนแพยาวคลุมหลังคาริมฝั่งแม่น้ำ มีเรือพ่อค้าแม่ค้าพายมาจอดเทียบขายสินค้าการเกษตรพื้นบ้านหลายชนิดตามฤดู กาล เหมาะสำหรับเดินเลือกซื้อและรับประทานอาหารหลากหลายทั้งคาวหวาน สินค้าที่ระลึก และสินค้าโอท็อปของจังหวัด ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีบริการเรือท่องเที่ยวล่องไปตามลำน้ำบางปะกงเพื่อชมทิวทัศน์ สองฝั่งน้ำ วัดโสธรวรารามวรวิหาร เป็นสถานที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่มีชื่อเสียงของฉะเชิงเทรา คือ "หลวงพ่อพุทธโสธร" พระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 1.65 เมตร สูง 1.48 เมตร สร้างขึ้นโดยฝีมือของช่างล้านช้าง สำหรับสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อโสธรจะเปิดให้เข้าชมเฉพาะในส่วนของวิหารจำลอง เนื่องจากทางคณะกรรมการวัดมีมติให้รื้อพระอุโบสถหลังเก่า ซึ่งมีสภาพทรุดโทรมและคับแคบ แล้วสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ พร้อมกับอัญเชิญพระพุทธโสธรองค์จำลองไปประดิษฐานไว้เพื่อเปิดให้ประชาชนได้ นมัสการตามปกติ โดยเปิดให้ชมทุกวันในเวลา 07.00-16.30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ระหว่างเวลา 07.00-17.00 น. สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่วัดโสธรฯ โทรศัพท์ 0 3851 1048, 0 3851 1666 และบริเวณใกล้วัดยังมีท่าน้ำ ที่มีเรือบริการท่องเที่ยวลำน้ำบางปะกงไปขึ้นที่ตลาดบ้านใหม่อีกด้วย

3. จังหวัดนครนายก

จังหวัดนครนายก ถือเป็นเมืองที่มีขนาดไม่ใหญ่ เงียบสงบ เหมาะกับการอยู่อาศัยและท่องเที่ยวพักผ่อน เป็นเมืองในฝันใกล้กรุง ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรม รวมถึงมีกิจกรรมที่ สามารถทำได้ทั้งครอบครัว ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่เราหยิบมาแนะนำ ได้แก่ น้ำตกสาริกา เป็นน้ำตกในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งอยู่ที่ตำบลสาริกา จากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 3049 ระยะทาง 12 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่สายน้ำไหลตกจากหน้าผาเป็นทอด ๆ ถึง 9 ชั้น ผาที่สูงที่สุดประมาณ 200 เมตร แต่ละชั้นมีอ่างรับน้ำ บริเวณด้านล่างของน้ำตกมีบริการห้องอาบน้ำ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โทรศัพท์ 0 3731 9002 น้ำตกนางรอง ตั้งอยู่ที่ตำบลหินตั้ง ห่างจากตัวเมือง 20 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 3049 ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นน้ำตกขนาดกลางที่ไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ สวยงาม ในช่วงฤดูฝน

กระแสน้ำจากน้ำตกนางรองจะไหลเชี่ยวมาก ต้องระมัดระวังในการลงเล่นน้ำ ภายในจัดเป็นระเบียบสะอาดตา และมีบ้านพักบริการ

4. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

พิพิธภัณฑ์เรือไทย ตั้งอยู่ซอยขาว มาลา ถนนบางเอียน ตำบลประตูชัย เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำหรับชมเรือโบราณจำลอง ซึ่งเรือที่อยุธยาขึ้นชื่อว่าเป็นเวนิสตะวันออกของไทยอย่างแท้จริง มีแม่น้ำลำคลองครอบคลุมพื้นที่ดุจใยแมงมุม เรือจึงเกี่ยวโยงกับคนอยุธยาตั้งแต่ชนชั้นกษัตริย์ที่ใช้ประกอบพระราชพิธี ต่าง ๆ และเสด็จโดยกระบวนเรือ จนถึงสามัญชนที่ใช้เป็นพาหนะในการสัญจรไปมา สำหรับสิ่งที่น่าสนใจ เช่น เรือโบราณจำลอง อาคารพิพิธภัณฑ์มีลักษณะเป็นเรือนไทยสองชั้น ชั้นล่างจัดแสดงเรือจำลองต่าง ๆ ที่อาจารย์ไพฑูรย์ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 เป็นต้นมา ปัจจุบันมีผลงานนับร้อยลำ เรือบางลำเป็นเรือโบราณที่ไม่เคยเห็นมาก่อน อาจารย์จำลองขึ้นจากการศึกษาค้นคว้าทั้งเอกสาร ภาพจิตรกรรมตามวัดในอยุธยา และที่กล่าวถึงไว้ในวรรณคดีไทยเรื่องต่าง ๆ เมื่อมีนักท่องเที่ยวแวะเข้าไปชมอาจารย์ไพฑูรย์จะทำหน้าที่นำชมและอธิบายให้ ฟังด้วยตนเอง อาจารย์รู้จักและรักเรือจำลองทุกลำที่ต่อขึ้น แต่มีเรือบางลำที่อาจารย์ภูมิใจ อย่างเรือสำเภาจำลองที่ใช้กันในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งต้องค้นข้อมูลจากเอกสารโบราณหลายฉบับ เรือพระที่นั่งสมเด็จพระนเรศวร ซึ่งถอดแบบมากจากภาพจิตกรรมในวัดสุวรรณดาราม เรือมาดประทุน มาจากการอ่านนิราศสุนทรภู่ แล้วนำไปจินตนาการ เป็นต้น นอกจากนี้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่เก็บค่าเข้าชม แต่นักท่องเที่ยวอาจมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์เรือไทยโดยการบริจาคสมทบค่าใช้ จ่ายในการดูแลรักษา วัดพนัญเชิงวรวิหาร ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลคลองสวนพลู ริมแม่น้ำป่าสักทางทิศใต้ฝั่งตรงข้ามของเกาะเมือง ห่างจากตัวเมืองราว 5 กิโลเมตร เป็นพระอารามหลวงชั้นโทชนิดวรวิหาร แบบมหานิกาย เป็นวัดที่มีมาก่อนการสร้างกรุงศรีอยุธยา ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง ตามพงศาวดารเหนือกล่าวว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้งซึ่งครองเมืองอโยธยาเป็นผู้สร้างขึ้นตรงที่พระราชทานเพลิง ศพพระนางสร้อยดอกหมาก และพระราชทานนามวัดว่า "วัดพระเจ้าพระนางเชิง" (หรือวัดพระนางเชิง) พระวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ตามพงศาวดารกล่าวว่าสร้างเมื่อพ.ศ.1867 ก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา 26 ปีเดิมชื่อ "พระพุทธเจ้าพนัญเชิง"(พระเจ้าพะแนงเชิง) แต่ในรัชกาลที่ 4 เมื่อมีการบูรณปฏิสังขรณ์พระพุทธรูปองค์นี้ได้พระราชทานนามใหม่ว่า "พระพุทธไตรรัตนนายก"(ชาวบ้านนิยมเรียกหลวงพ่อโต ชาวจีนนิยมเรียกว่าซำปอกง ผู้คุ้มครองการเดินทางทางทะเล) เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นศิลปะแบบอู่ทองปางมารวิชัยลงรักปิดทอง มีขนาดหน้าตักกว้าง 14 เมตรและสูง 19.13 เมตร ฝีมือปั้นงดงามมาก เบื้องหน้ามีตาลปัตรหรือพัดยศและพระอัครสาวกที่ทำด้วยปูนปั้นลงรักปิดทอง ประดิษฐานอยู่เบื้องซ้ายและขวา อาจนับได้ว่าเป็นพระพุทธรูปนั่งสมัยอยุธยาตอนต้นที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดที่ เหลืออยู่ในปัจจุบัน เป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัดอยุธยาและจังหวัดใกล้เคียง วัดใหญ่ชัยมงคล เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำหรับชมเจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยา อีกทั้งยังสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมมาเที่ยวกันอย่าง เนืองแน่น ปัจจุบันได้รับการบูรณะให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ด้านหลังวัดจัดสร้างตำหนักสมเด็จพระนเรศวรให้ผู้นับถือศรัทธาเข้ากราบไหว้ ได้ นอกจากนี้รอบบริเวณมีสวนหย่อมสวยงามให้พักหย่อนใจอีกด้วย สำหรับสิ่งที่น่าสนใจเมื่อมาเยี่ยมชมวัดใหญ่ชัยมงคล คือ เจดีย์ ตั้งอยู่บนฐานสูง เป็นเจดีย์ที่มีฐานบัลลังก์แปดเหลี่ยม สูงจากฐานถึงยอด 60 เมตร สามารถแลเห็นได้แต่ไกล มีบันไดขึ้นสู่ลานทักษิณ บนเจดีย์ด้านหน้ามีพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ที่เชิงบันไดมีพระพุทธรูปปูน ปั้นปางมารวิชัยสององค์ ด้านซ้ายเรียกว่า เจ้าแก้ว ส่วนด้านขวาเรียกว่า เจ้าไท เจดีย์องค์นี้สร้างครอบซากเจดีย์องค์เก่า นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าอาจสร้างครอบมาแต่ครั้งกรุงอโยธยาแล้วก็ได้ วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่เชิงสะพานป่าถ่าน ทางทิศตะวันออกของวัดพระศรีสรรเพชญ์ สิ่งที่น่าสนใจในวัด คือ เศียรพระพุทธรูปหินทราย ซึ่งมีรากไม้ปกคลุมเข้าใจว่าเศียรพระพุทธรูปนี้จะหล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นไม้ ในสมัยเสียกรุงจนรากไม้ขึ้นปกคลุมมีความงดงามแปลกตาไปอีกแบบ, วัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดสำคัญที่สร้างอยู่ในพระราชวังหลวง เทียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดารามแห่งกรุงเทพมหานครหรือวัดมหาธาตุแห่งกรุง สุโขทัย ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสร้างพระราชมณเฑียรเป็นที่ประทับบริเวณนี้ ต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงย้ายพระราชวังขึ้นไปทางเหนือและอุทิศที่ดิน เดิมให้สร้างวัดขึ้นภายในเขตพระราชวังและโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเขตพุทธาวาสขึ้น เพื่อเป็นที่สำหรับประกอบพิธีสำคัญต่างๆ จึงเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา

5. จังหวัดสมุทรสงคราม

ตลาดน้ำบางนกแขวก เคยเป็นแหล่งการค้าในที่คึกคักในอดีต ริมฝั่งมีเรือนแถวไม้เก่าแก่กว่า 100 ปี ปลูกติดต่อกัน ร่องรอยของอดีตหาชมได้ที่ร้านขายยาจีนตงซัวฮึ้ง ปั๊มน้ำมันเก่าแก่ริมแม่น้ำ บ้านนายกังวาน "เจ้าพ่อบางนกแขวก" บ้านอภิเดช ศิษย์หิรัญ นักมวยไทยฉายาจอมเตะแห่งบางนกแขวก มีตรอกเล็ก ๆ ทางเข้าตลาดที่เดิมเคยเป็นทางเดินไปโรงสูบฝิ่น สำหรับอาหารน่าชิมได้แก่ ก๋วยเตี๋ยวปู ผัดไทยกุ้งสด ก๋วยเตี๋ยวกะลา หอยเชลล์อบเนย อิ่วก้วยไส้เค็มและไส้หวาน สละลอยแก้ว ฯลฯ โดยเปิดตลาดในวันเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00-17.00 น., ตลาดน้ำบางน้อย ตั้งอยู่ที่ปากคลองบางน้อย (วัดเกาะแก้ว) ห่างจากอุทยาน ร.2 ประมาณ 5 กิโลเมตร จะเปิดขายของในวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป สินค้าที่จำหน่ายมีทั้งผลผลิตทางการเกษตรจากชาวสวน ผลไม้ต่าง ๆ รวมทั้งอาหารคาวหวานอันขึ้นชื่อของสมุทรสงคราม สามารถเดินเลียบคลองชมบรรยากาศบ้านไม้เก่าแก่และร้านค้าต่าง ๆ ที่เรียงรายริมคลองบางน้อยได้อย่างเพลิดเพลิน ดอนหอยหลอด สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นสันดอนตั้งอยู่ปากแม่น้ำแม่กลอง เกิดจากการตกตะกอนของดินปนทรายหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ทรายขี้เป็ด ที่นี่มีหอยอาศัยอยู่หลายชนิด แต่พบว่าหอยหลอดมีจำนวนมากที่สุด ซึ่งการจับหอยหลอดจะจับในช่วงน้ำลง และช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเที่ยวดอนหอยหลอดคือประมาณเดือนมีนาคมถึงเดือน พฤษภาคม เพราะเป็นช่วงที่น้ำทะเลจะลดลงนานกว่าช่วงเวลาอื่น และสามารถมองเห็นสันดอนโผล่ขึ้นมา นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือบริเวณศาลาอาภากร ใกล้กับศาลกรมหลวงชุมพรฯ เพื่อนั่งเรือไปชมดอนหอยหลอดได้, ป่าชายเลนคลองโคน เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสงคราม ที่รวมเอาความสนุกไว้พร้อมกับสาระความรู้และการอนุรักษ์ป่าชายเลนให้ยั่งยืน ตลอดไป ตลาดหุบร่ม ตั้งขายอยู่ริมทางรถไฟใกล้สถานีรถไฟแม่กลอง ความยาวของตลาดประมาณ 100 เมตร บรรดาพ่อค้าแม่ค้าจะวางขายสินค้าบนพื้นจนติดกับรางรถไฟ เวลารถไฟมาก็ต่างหุบร่มที่กางและเก็บสินค้าภายในพริบตา จนเป็นที่มาของชื่อตลาดหุบร่มนั่นเอง

ที่มา : https://travel.kapook.com


Recent Posts
Archive
Search By Tags
No tags yet.
bottom of page